Saturday, 21 Dec 2024

คุมอาหารอย่างเคร่งครัด แต่ทำไม ค่าไตยังลดลง

ค่า BUN ลดลงแล้ว

แต่ทำไม?

ค่า GFR ลดลงตามไปด้วย

เมื่อค่าไตเริ่มลดลง น้อยกว่า 45%
หรือเข้าสู่ระยะ 3b-5 
สิ่งที่ต้องทำคือ

ควบคุมปริมาณโปรตีน
ตามสัดส่วนที่สามารถ
ทานได้ในแต่ละวัน

ผู้ป่วยโรคไตเสื่อม หลายๆ คน
คุมอาหารอย่างเคร่งครัดแล้ว
แต่ทำไมค่าไตก็ยังลดลงอีก
มีสาเหตุมาจากอะไร? 

วันนี้เรามาดูกันค่ะ

สาเหตุที่ คุมอาหารแล้ว
ค่าไตก็ยังลดลงอีก คือ

1. การคุมโปรตีนมากจนเกินไป
การคุมโปรตีน สำหรับผู้ป่วย 

โรคไตระยะ 3b -5
เป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องทำ
เมื่อคุมโปรตีนแล้วจะมีผล
ทำให้ค่า BUN ลดลง 

สำหรับผู้ป่วย โรคไตระยะ 3b-5
ไต จะสามารถขับของเสียได้น้อย
จึงควรทาน โปรตีน ในปริมาณที่เหมาะสม
ตามสดส่วนที่คำนวณได้

การที่มี่ค่า BUN มากกว่า 20
แต่ไม่เกิน 40 
จะยังถือว่าไม่อันตราย

แต่ถ้า มีค่า BUN น้อยกว่า 20
แสดงว่า ผู้ป่วยทานโปรตีนน้อยเกินไป
หรือไม่ทานโปรตีนเลย ซึ่งจะส่งผลเสีย
ทำให้มีค่า Creatinine สูงขึ้นได้

เมื่อร่างกายได้รับสารอาหาร
ไม่เพียงพอ
ทำให้ร่างกาย
เกิดการสลายตัวของกล้ามเนื้อ
ส่งผลให้
ค่า Creatinine สูงขึ้น
และ
ค่า GFR จะยิ่งลดลง

ผู้ป่วย โรคไต ทุกระยะ 
จะต้องทานโปรตีนให้เหมาะสม
กับ ระยะของไต 

เลือกทานโปรตีนคุณภาพดี
อาทิ ไข่ขาว เนื้อปลา
เนื้อไก่ (ไม่ติดหนัง ไม่ติดมัน)
ในปริมาณที่เหมาะสม
ไม่ควรอด หรือ งดทานโปรตีน

ผู้ป่วย โรคไตระยะ 3b-5
จะต้องคำนวณปริมาณสัดส่วนอาหาร
โดยคำนวณจากน้ำหนักตัวที่เหมาะสม
(ไม่ใช่น้ำหนักตัวปัจจุบันนะคะ)

วิธีหาค่าน้ำหนักตัวที่เหมาะสม

เพศชาย
ส่วนสูง-1
00 = น้ำหนักตัวที่เหมาะสม

เพศหญิง
ส่วนสูง-105 = น้ำหนักตัวที่เหมาะสม


วิธีคำนวณปริมาณสัดส่วนอาหาร
ที่ควรได้รับในแต่ละวัน

โรคไตระยะ 3b -5
ต้องการโปรตีน 0.6 กรัม
ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

ตัวอย่างเช่น
น้ำหนักตัว 50 กก. x 0.6 กรัม
= 30 กรัม

ดังนั้น โปรตีนที่จะต้องได้รับต่อวัน คือ 30 กรัม

2. การไม่ดูแลโรคประจำตัว

ไตเสื่อม ระยะที่ 4 -5
แต่แพทย์ไม่จ่ายยารักษาไตให้
เพราะอะไร?
ทำไมให้ทานยาความดัน
เบาหวาน และไขมัน เท่านั้น

การดูแลรักษาไตเสื่อม
นอกจากการดูแลควบคุมอาหารแล้ว
การดูแลโรคประจำตัว
คือ สิ่งที่สำคัญ เช่นกัน
เบาหวาน ความดัน ไขมัน
3 โรคที่ก่อให้เกิด โรคไตเสื่อม ตามมา

เมื่อผู้ป่วยได้รับยามา
ต้องทานยาให้ครบ
ตามที่แพทย์สั้ง
ไม่ควรลดปริมาณยา

หรือหยุดทานยาเอง

นอกจากการทานยาแล้ว
ผู้ป่วยควรปรับพฤติกรรม
การดูแลตัวเองด้วย

ทานให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ

เมื่อดูแล คุมอาการของโรคประจำตัวได้ดี
โดยไม่ต้องทานยา แพทย์จะพิจารณา
และลดปริมาณยาให้เอง

โรคเบาหวาน
น้ำตาลสะสม ไม่ควรเกิน 6
และน้ำตาลทั่วไปต้องไม่สูงเกินเกณฑ์ปกติ

ผู้ป่วย โรคเบาหวานหลายๆคน
มักจะบอกว่า…
คุมเบาหวานให้อยู่ในเกฑ์ปกติได้แล้ว

ซึ่งคุมได้ด้วยการฉีดยา
การฉีดยาในเเต่ละวัน ในปริมาณมากๆ
(เช่นเช้า 25 ยูนิต และเย็น 20 ยูนิต)
จะส่งผลให้ค่าไตลดลง ไม่ดีขึ้น

ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เพื่อลดน้ำตาลในเลือด
ด้วยการลดปริมาณ
การทานข้าว ของหวาน

ผลไม้รสหวาน น้ำผลไม้รสหวาน

โรคความดัน
คุมความดัน ให้อยู่ในเกณฑ์
เพื่อช่วยลดการทานยาความดันลง

ลดอาหารที่มันจัด หวานจัด
เพราะการทานอาหารที่มีรสหวาน
จะทำให้เกิดการสะสมของน้ำตาล

เมื่อผู้ป่วยใช้พลังงานน้อยกว่าที่ทานไป
จะทำให้เกิดน้ำตาลสะสม
กลายเป็นเป็นไขมัน

เมื่อไขมันสูงขึ้น
จะเกิดการอุดตันในเส้นเลือด
และส่งผลให้ความดันขึ้น

การทานยาความดันในปริมาณที่เยอะ
จะส่งผลให้ค่าไตลดลง

ไขมันในเลือด
เช็คค่าไตรกรีเซอไร/LDL
ถ้าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิด
การอุดตันในเส้นเลือด
จึงส่งผลทำให้
ช่วยเพิ่มค่าการทำงานของไตได้

3. การเลือกทาน “กรดอะมิโนวิต”

เมื่อเลือกทานอะมิโนวิต
ผู้ป่วยจะต้องทำ Zero Protein 
 คือการที่ไม่ทานอาหาร
กลุ่มเนื้อสัตว์หรือแป้งเลย
และจะต้องทานอมิโนวิต
ควบคู่กับการทานแป้งปลอดโปรตีน เช่น วุ้นเส้น

ถึงแม้ว่า วุ้นเส้น จะเป็นแป้งปลอดโปรตีน
แต่ถ้าทานในปริมาณที่มากเกินไป
เป็นประจำทุกวัน
ส่งผลทำให้ผู้ป่วย
มีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น

การทานอะมิโนวิต
จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์

และนักโภชนาการอาหาร
เพราะถ้าหากทานในปริมาณมากเกินไป
ก็จะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนเกิน
เกิดค่าของเสียสูง
และถ้าทานน้อยเกินไป
ร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ

ผู้ป่วยบางรายทาน “อะมิโนวิต”
แล้ว BUN ไม่สูง
แต่มี “ระดับน้ำตาล” 
ในเลือดที่สูงขึ้น เพราะฉะนั้น

ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานนะคะ

=============

เราเชื่อว่าสุขภาพที่ดี
เริ่มต้นจากตัวคุณก่อน”

สั่งซื้อ | ปรึกษา จากผู้เชี่ยวชาญ :
ติดต่อ คุณอ้อม สารินี

Line : @aomsarinee

กดเพิ่มเพื่อน เพื่อปรึกษาฟรีได้อัตโนมัติ
ตามลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ 👇🏽👇🏽
https://lin.ee/UTSMS5K

Open